นอกเหนือจากการตีโจทย์งานให้กับลูกค้าแล้ว งานด่วน งานเร่ง ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้หลายๆ โรงพิมพ์ต้องวิ่งวุ่นกับการเตรียม ข้อจำกัดจากตลาดเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นนานๆ ที แต่แทบจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับธุรกิจแพคเกจจิงในปัจจุบัน
การหากระดาษไม่ทันบริการลูกค้า ทำให้โรงพิมพ์ส่วนใหญ่จำใจต้องสต็อควัตถุดิบกระดาษจำนวนมาก หรือยอมใช้กระดาษไซส์ไม่พอดีกับชิ้นงาน แล้วเก็บเศษเหล่านั้นไว้ใช้ในโอกาสหน้า เรียกได้ว่าแทบไม่มีทางออกอื่นนอกจากการลงทุนสต็อคของรอวันเอาออกมาใช้ในอนาคต! ตัวอย่างเช่น กระดาษกล่องแป้ง หลังจากเลย์งานตามแบบแล้ว สามารถตัดเหลือเศษเก็บได้เป็น กระดาษกล่องแป้ง 22 นิ้ว เราคงไม่ปล่อยมันทิ้งไปใช่ไหมครับ
วิธีการเก็บรักษากระดาษให้คงคุณภาพได้นาน คือ “การดูแลไม่ให้กระดาษเปลี่ยนคุณสมบัติ” โดยทำได้ดังนี้
- ใช้กระดาษหีบห่อเก็บกระดาษให้มิดชิด แนะนำกระดาษเคลือบพลาสติกเมื่อห่อควรปิดหัวท้ายกันอากาศให้เรียบร้อยด้วย เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันความชื้น และแสง เพื่อรักษาคุณสมบัติของกระดาษให้คงที่ ไม่เกิดปัญหาเวลาพิมพ์
- พันฟิล์มให้หนาและมิดชิดเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปได้ การพันฟิล์มอาจทำได้ง่ายกว่า แต่จำเป็นต้องห่อให้หนาและรัดกุม การพันฟิล์มจะช่วยประหยัดเวลาได้มากกว่าครับ หากเป็นของที่เก็บไม่นานวิธีนี้ก็สะดวกครับ
- ควรวางกระดาษบนพื้นยกสูงหรือบนพาเลท กระดาษดูดความชื้นได้ง่าย การรองด้วยพื้นผิวที่เรียบแห้งนอกจากจะช่วยยืดอายุแล้ว ยังทำให้การเคลื่อนย้ายจัดเก็บเป็นระเบียบอีกด้วย
- ไม่ควรเก็บกระดาษในที่แสงจัด เพราะกระดาษอาจเปลี่ยนสีได้หากถูกวางทิ้งไว้นานๆ
- ทำทะเบียนให้ชัดเจนเพื่อดูอายุของกระดาษและจัดเก็บให้เป็นหมวดหมู่ และควรบันทึกใน Stock Card ป้องกันการวางลืมนอกจากนี้ยังเป็นการทำให้เราบริหารสต็อคได้ง่ายขึ้นด้วยครับ
หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ ให้ ไทย เปเปอร์ ดี เป็นผู้ช่วยเตรียมวัตถุดิบให้คุณ เพียงแค่กำหนดขนาดกระดาษไซส์พิเศษที่ต้องการ บนปริมาณที่พอดี ในเวลาที่คุณกำหนด เพียงเท่านี้ก็ทั้งง่าย ทั้งควบคุมต้นทุนได้แล้วล่ะครับ